ความสุขตามอัตภาพ
"ลมเย็นพัดปะทะใบหน้า แม้จะมีหมวกกันน็อคกั้นอยู่ แต่แรงลมก็ยังแทรกผ่านเข้ามาให้รู้สึกถึงความอิสระบนเส้นทางที่ทอดยาว ในความเรียบง่ายของช่วงเวลานี้ มีความสุขเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ สำหรับคนว่างงานที่ขับมอเตอร์ไซค์อยู่บนถนน เพียงแค่นี้ก็พอจะทำให้ยิ้มได้"
เสียงของหญิงสาวที่ซ้อนอยู่ข้างหลังดังขึ้นแผ่วเบา เธอเป็นคุณแม่ใกล้คลอด แม้ร่างกายจะอ่อนล้า แต่ในแววตากลับฉายความสงบออกมา "สังเกตไหม ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงเวลาไหน พวกเราก็มีความสุขได้"
พี่สาวที่กำลังบังคับแฮนด์มอเตอร์ไซค์หัวเราะเบาๆ "ก็มีความสุขตามอัตภาพ"
เสียงเครื่องยนต์ยังคงดังก้องไปตามเส้นทาง ปลายทางคือโรงพยาบาลที่คุ้นเคย ทั้งคู่รู้ดีว่าชีวิตข้างหน้า คงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่จะเดินต่อไป
พวกเธอเคยผ่านคืนวันที่เหนื่อยล้า เคยล้มลงและลุกขึ้นใหม่ ครั้งนี้ก็เช่นกัน...ไม่ว่าจะเจอกับอะไร พวกเราสามพี่น้องก็จะยังคงก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปด้วยกัน
น้องคนกลาง เสาหลักของครอบครัวในตอนนี้แม้จะไม่ได้นั่งซ้อนท้ายอยู่ตรงนี้ แต่ก็พร้อมจะเป็นแรงซัพพอร์ตเสมอ ส่งกำลังใจในทุกย่างก้าว ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร พวกเธอรู้ดีว่าตราบใดที่ยังมีกันและกันทุกสิ่งย่อมผ่านไปได้
ชีวิตมักมีสองด้านเสมอ หากเรามองแต่ปัญหา เราอาจจมอยู่กับความทุกข์ใจจนลืมสิ่งที่มีค่า แต่หากลองเปลี่ยนมุมมอง อาจพบว่ามีบางสิ่งที่งดงามซ่อนอยู่
เหมือนเรื่องราวของสองพี่น้อง แม้สถานการณ์ไม่สมบูรณ์แบบ ทั้งการว่างงานและความเหนื่อยล้าของหญิงสาวใกล้คลอด แต่พวกเธอก็ยังค้นพบความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อยู่รอบตัว สายลมที่พัดผ่าน บทสนทนาเรียบง่าย หรือเพียงแค่การอยู่ด้วยกัน
ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเรามองเห็น "สิ่งที่ซ่อนอยู่" ในเรื่องราวของตัวเองหรือไม่
หากมองจากมุมของปัญหา ชีวิตอาจเต็มไปด้วยอุปสรรคและความทุกข์ใจ แต่ถ้าเราลองเปลี่ยนมุมมอง เราอาจพบว่าความสุขไม่เคยหายไปไหน มันยังคงอยู่ที่เดิม อยู่กับเราตลอดมา เพียงแต่เราอาจลืมมองมันเท่านั้นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น